เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์] 2. ยมกวรรค 10. ทุติยกถาวัตถุสูตร
10. ทุติยกถาวัตถุสูตร
ว่าด้วยกถาวัตถุ สูตรที่ 2
[70] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถ-
บิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี สมัยนั้นแล ภิกษุจำนวนมากกลับจากบิณฑบาตใน
เวลาหลังภัตตาหาร นั่งประชุมกันที่หอฉัน สนทนาติรัจฉานกถาต่าง ๆ คือ
(1) ราชกถา เรื่องพระราชา (2) โจรกถา เรื่องโจร (3) มหามัตตกถา เรื่องมหา-
อำมาตย์ ฯลฯ (28) อิติภวาภวกถา เรื่องความเจริญและความเสื่อม
ครั้นในเวลาเย็น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่หลีกเร้น เข้าไปยังหอฉัน
ประทับนั่งบนพุทธอาสน์ที่เขาปูลาดไว้ ได้ตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย
บัดนี้ เธอทั้งหลายนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ และเรื่องอะไรที่เธอ
ทั้งหลายสนทนากันค้างไว้”
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานวโรกาส
ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับจากบิณฑบาตในเวลาหลังภัตตาหาร นั่งประชุมกันที่หอฉัน
สนทนาติรัจฉานกถาต่าง ๆ คือ (1) ราชกถา เรื่องพระราชา (2) โจรกถา เรื่องโจร ฯลฯ
(28) อิติภวาภวกถา เรื่องความเจริญและความเสื่อม พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ไม่สมควรเลยที่เธอทั้งหลายผู้เป็นกุล
บุตรมีศรัทธาออกบวชเป็นบรรพชิตสนทนาติรัจฉานกถาต่าง ๆ คือ (1) ราชกถา
เรื่องพระราชา ฯลฯ (28) อิติภวาภวกถา เรื่องความเจริญและความเสื่อม
ภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ควรสรรเสริญ 10 ประการนี้
ฐานะที่ควรสรรเสริญ 10 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้
1. ตนเองเป็นผู้มักน้อย และแสดงคุณของความเป็นผู้มักน้อยแก่ภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่ว่า ‘ภิกษุเป็นผู้มักน้อย และแสดงคุณของความเป็นผู้มักน้อยแก่
ภิกษุทั้งหลาย’ นี้เป็นฐานะที่ควรสรรเสริญ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 24 หน้า :153 }